บทคัดย่อ

                        วิทยานิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑) เพื่อศึกษาหลักสามัคคีธรรมในพระพุทธศาสนาเถรวาท  ๒) เพื่อวิเคราะห์ความสำเร็จการนำหลักสามัคคีธรรมมาใช้ในสังคม  และ ๓) เพื่อศึกษาวิธีการประยุกต์สามัคคีธรรมกับสังคมไทยในปัจจุบัน  งานวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ เน้นศึกษาค้นคว้าจากเอกสารโดยใช้ข้อมูลชั้นปฐมภูมิจากพระไตรปิฎก และ ข้อมูลทุติยภูมิ คือ อรรถกถา  ตำรา  เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

                         ผลการวิจัยพบว่า หลักธรรมในพระพุทธศาสนาแต่ละหมวดมีความสำคัญมาก ซึ่งจะช่วยให้เกิดความสมานฉันท์ความปรองดองในหมู่คณะ มีความพร้อมเพรียงกันทำกิจต่างๆ  ให้สำเร็จลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพ สามัคคีธรรมต้องอาศัยความอดทน เสียสละ ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน และตระหนักในปัญหาร่วมกัน  การปฏิบัติตนตามหลักธรรมต่างๆ เมื่อคณะสงฆ์และฆราวาสได้พากันประพฤติปฏิบัติตาม ก็จะประสพแต่ความเจริญฝ่ายเดียวในสังคม มีแต่ความผาสุก เจริญรุ่งเรืองเท่านั้น

สามัคคีธรรมในแต่ละยุคย่อมไม่แตกต่างกันเพราะใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์                ทรงใช้หลักทศพิธราชธรรม  สังคหะวัตถุ  สัปปุริสธรรม  หิริโอตัปปะ  อปริหานิยธรรม และจักรวรรดิวัตร  ปกครองประชาชน

 วิธีการประยุกต์สามัคคีธรรมใช้ในสังคมไทยนั้นผู้วิจัยนำเสนอสามัคคีธรรมในครอบครัวโดยใช้หลักสังคหวัตถุปฏิสัมพันธ์กับทิศหก ขันติธรรมและสัปปุริสธรรม เป็นพื้นฐานเบื้องต้นในครอบครัวเพื่อสร้างความสามัคคีในสังคมไทย

ดาวน์โหลด