หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระครูสันติญาณประยุต (ไพโรจน์ สนฺตจิตฺโต)
 
เข้าชม : ๑๙๙๙๒ ครั้ง
ประสิทธิภาพการบริหารกิจการคณะสงฆ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
ชื่อผู้วิจัย : พระครูสันติญาณประยุต (ไพโรจน์ สนฺตจิตฺโต) ข้อมูลวันที่ : ๑๑/๐๘/๒๐๑๓
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุรพล สุยะพรหม, ป.ธ.๔, พ.ม., พธ.ม., M.A., Ph. D. (Pol. Sc.)
  พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ, ประโยค ๑ – ๒, น.ธ.เอก, พธ.บ.(เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง), ศศ.ม.(พัฒนาสังคม)
  ผศ.ชวัชชัย ไชยสา พธ.บ.,M.A.
วันสำเร็จการศึกษา : 2555
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

 งานวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการบริหารกิจการคณะสงฆ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ๒) เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพการบริหารกิจการคณะสงฆ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล  ๓) เพื่อศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ดำเนินการวิจัยโดยวิธีวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคณะสงฆ์ ในอำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี จำนวน ๒๓๐ คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเอง โดยมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ ๐.๙๐ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และสถิติเชิงอนุมาน คือ สถิติทดสอบค่าที (t-test)  สถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และทำการทดสอบความแตกต่างรายคู่โดยวิธีการผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD)

ผลการวิจัย พบว่า  

๑. ระดับประสิทธิภาพการบริหารกิจการคณะสงฆ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี
ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีค่าเฉลี่ย ๓.๓๒ และเมื่อจำแนกเป็นรายด้านแล้วพบว่า ประสิทธิภาพการบริหารกิจการคณะสงฆ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ด้านการปกครอง อยู่ในระดับมาก ส่วนประสิทธิภาพการบริหารกิจการคณะสงฆ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ด้านอื่นๆอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน

               ๒. ผลการเปรียบเทียบระดับประสิทธิภาพการบริหารกิจการคณะสงฆ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี จำแนกตามสถานภาพส่วนบุคคล พบว่า พระสงฆ์ที่มีอายุ พรรษา ตำแหน่งทางคณะสงฆ์ ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่งและวุฒิการศึกษาแผนกสามัญศึกษา ต่างกันมีประสิทธิภาพในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ในภาพรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๑ ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนพระสงฆ์ที่มีวุฒิการศึกษาแผนกนักธรรมและวุฒิการศึกษาแผนกบาลี ต่างกัน มีประสิทธิภาพในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน ซึ่งปฏิเสธสมมติฐาน ที่ตั้งไว้

         ๓. ปัญหาและข้อเสนอแนะในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ อำเภอเมืองจังหวัดลพบุรี    

๑) ด้านการปกครอง ปัญหา ได้แก่ การประชุมพระภิกษุสามเณรเพื่ออบรมสั่งสอนด้านวัตรปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยไม่สม่ำเสมอไม่เปิดโอกาสให้ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น เป็นต้น ข้อเสนอแนะ ได้แก่ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นบ้าง เป็นต้น
๒) ด้านการศาสนศึกษา ปัญหา ได้แก่
การตรวจตราเยี่ยมเยียนสำนัก ศาสนศึกษาไม่เป็นไปอย่างทั่วถึง ข้อเสนอแนะ ได้แก่ ควรมีการส่งเสริมให้พระสงฆ์ทุกวัดได้เรียนพระธรรมวินัยอย่างเป็นประจำ ๓) ด้านการศึกษาสงเคราะห์ ปัญหา ได้แก่ การตั้งทุนสงเคราะห์การศึกษาแก่เด็กและเยาวชนทุกระดับชั้น ยังมีอยู่น้อยมาก ข้อเสนอแนะ ได้แก่ ควรมีการจัดตั้งทุนให้พระภิกษุสามเณรนำไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ๔) ด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ปัญหา ได้แก่ การเทศนาสั่งสอนประชาชนให้ตั้งอยู่ในศีลธรรมตามหลักธรรมคำสอนขอพระพุทธศาสนาไม่ค่อยได้รับความนิยมในวัด ต่างจังหวัด ข้อเสนอแนะ ได้แก่ ควรมีการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเข้าถึงตามสถานที่ต่างๆให้มากกว่านี้ เป็นต้น ๕) ด้านการสาธารณูปการ ปัญหา ได้แก่ การวางแผนในการก่อสร้างอาคารเสนาสนะภายในวัดไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ข้อเสนอแนะ ได้แก่ ควรมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลการวางแผนในการก่อสร้างอาคารเสนาสนะภายในวัดโดยเฉพาะ ๖) ด้านการสาธารณสงเคราะห์ ปัญหา การจัดทำถนนภายในวัดให้สะดวกแก่การสัญจรไปมาไม่ได้รับงบประมาณที่พอเพียง ข้อเสนอแนะ ได้แก่ ควรมีการกำหนดแผนงานในด้านการสาธารณะสงเคราะห์เป็นประจำ

 

 ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕