หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พันเอกหญิงฟองสมุทร วิชามูล
 
เข้าชม : ๒๐๐๒๓ ครั้ง
ศึกษามหาปุริสลักษณะของพระพุทธเจ้า(๒๕๕๑)
ชื่อผู้วิจัย : พันเอกหญิงฟองสมุทร วิชามูล ข้อมูลวันที่ : ๒๑/๐๘/๒๐๑๐
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระมหาสง่า ธีรสํวโร
  ดร. วิโรจน์ อินทนนท์
  พระมหาณรงค์ กนฺตสีโล
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๑
 
บทคัดย่อ

               งานวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษามหาปุริสลักษณะของพระพุทธเจ้า เป็นการศึกษาวิจัยข้อมูลทางเอกสาร โดยการศึกษาค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลจากเอกสารที่มีความเกี่ยวข้องนำมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ พร้อมนำเสนอแนวคิดของผู้วิจัยโดยมุ่งตอบวัตถุประสงค์และปัญหาที่ต้องการทราบ

               ผลจากการศึกษาวิจัยพบว่ามหาปุริสลักษณะ หมายถึง ลักษณะของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ได้แก่ มหาปุริสลักษณะของพระพุทธเจ้า ในคัมภีร์พระวินัยปิฎกและพระอภิธรรมปิฎกมีกล่าวถึงลักษณะของมหาบุรุษเพียงบางประการเท่านั้น แต่มีกล่าวไว้อย่างละเอียดครบ ๓๒ ประการ พร้อมอานิสงส์ที่ทำให้ได้มหาปุริสลักษณะไว้ในลักขณสูตรและมหาปทานสูตร พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย และกล่าวถึงบุคคลผู้สมบูรณ์ด้วยมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ เรียกว่าพระมหาบุรุษ ซึ่งมีคติสองอย่างคือ ถ้าครองเรือนจะได้เป็นพระมหาจักรพรรดิ์ ถ้าออกผนวชจะได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในสุมังคลวิลาสินี อรรถกถาพระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย พระพุทธโฆสาจารย์ได้อรรถาธิบายมหาปุริสลักษณะไว้โดยละเอียดและเป็นรูปธรรมชัดเจนมากขึ้น ในคัมภีร์มิลินทปัญหา ได้กล่าวถึงมหาปุริสลักษณะของพระพุทธเจ้า ในบทสนทนาระว่างพระยามิลินท์กับพระนาคเสน ว่าเป็นพุทธลักษณะที่แตกต่างจากพุทธบิดาและพุทธมารดา เปรียบได้กับดอกบัวแม้จะเกิดในดิน ในน้ำ แต่มีสิ กลิ่น รส ที่เลิศกว่าดินและน้ำพระพุทธเจ้าสมบูรณ์ด้วยมหาปุริสลักษณะ ๓๒ ประการ เพราะอานิสงส์ของการบำเพ็ญบารมีนานนับ ๔ อสงไขยแสนกัปในอดีตชาติ จนครบ ๓๐ ประการได้แก่ บารมี ๑๐ อุปบารมี ๑๐ และปรมัตถบารมี ๑๐ พระองค์จึงได้ตรัสรู้เป็นพระอนุตรสัมมาสัมพุทธเจ้าสมดังปณิธานที่พระองค์ได้ตั้งพระทัยไว้ จึงกล่าวได้ว่ามหาปุริสลักษณะที่ปรากฏเฉพาะแก่พระมหาบุรุษเกิดขึ้นเพราะอาศัยเหตุปัจจัยอันเป็นไปตามกระบวนการของเหตุปัจจัยและผลนั่นเอง

                  การศึกษาวิเคราะห์มหาปุริสลักษณะของพระพุทธเจ้าแง่บุคลาธิษฐาน เช่น รูป จักรและรูปมงคล ๑๐๘ ประการที่ปรากฏบนฝ่าพระบาท หมายถึง การที่พระองค์เสด็จไปที่แห่งใดเป็นการหมุนไปของกงล้อแห่งพระธรรมและความเป็นผู้มีบริวารมาก ทรงมีพระกำลังเสมอช้างล้านเชือก หมายถึง ผู้สมบูรณ์ด้วยทศพลญาณที่ทำให้พระองค์สามารถประกาศพระศาสนาได้แผ่ไพศาล การศึกษาวิเคราะห์มหาปุริสลักษณะของพระพุทธเจ้าแง่กายวิภาคนั้น สรุปได้ว่า เป็นลักษณะพิเศษของพระมหาบุรุษ ส่วนบุคคลอื่นที่มีมหาปุริสลักษณะไม่สมบูรณ์ก็ยังไม่ได้ชื่อว่า เป็นมหาบุรุษการพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมหาปุริสลักษณะของพระพุทธเจ้า เป็นไปได้ทั้งในแง่อัตวิสัย กล่าวคือมุ่งบำเพ็ญบารมีตามปณิธานของพระพุทธองค์เพื่อบรรลุถึงความเป็นมหาบรุษ และพิสูจน์ด้วยปุพเพนิวาสานุสสติญาณ ดังที่พระพุทธเจ้าทรงพิสูจน์ด้วยพระองค์มาแล้ว ก็จะเกิดความประจักษ์ชัดด้วยตนเอง แต่ตราบใดที่เราไม่สามารถพิสูจน์ในแง่อัตวิสัยได้ ก็ต้องแสวงหาข้อเท็จจริงในแง่ปรวิสัย ด้วยกระบวนการศึกษาวิเคราะห์ความสัมพันธ์กันระหว่างมหาปุริสลักษณะกับกุศลกรรม และผลแห่งการบำเพ็ญบารมีกับการบรรลุโพธิญาณ บนพื้นฐานของเหตุผล

 

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕