หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระอนันต์ อิสุกาโร (เป้งไชยโม)
 
เข้าชม : ๑๙๙๙๗ ครั้ง
ศึกษาการตีความปฏิจจสมุปบาทตามทัศนะของพุทธทาสภิกขุ(๒๕๕๐)
ชื่อผู้วิจัย : พระอนันต์ อิสุกาโร (เป้งไชยโม) ข้อมูลวันที่ : ๐๕/๐๒/๒๐๑๖
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(พระพุทธศาสนา)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
 
 
 
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๙ / มีนาคม / ๒๕๕๐
 
บทคัดย่อ

      วิทยานิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์อยู่ ๓ ประการ คือ ๑.เพื่อศึกษาหลักปฏิจจสมุปบาทในพระไตรปิฎกและในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ๒. เพื่อศึกษาการตีความปฏิจจสมุปบาทตามทัศนะของพุทธทาสภิกขุ ๓. เพื่อศึกษาทัศนะการตีความหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาที่สามารถนำไปสู่ความรู้ในการประพฤติปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น และทางด้านศีลธรรม เพื่อความสุขในชีวิตปัจจุบันของพุทธบริษัท

     วิทยานิพนธ์นี้ ผู้วิจัยได้ศึกษาประวัติความเป็นมาและความสำคัญของการวิจัยศึกษาหลักปฏิจจสมุปบาทในพระไตรปิฎก และคัมภีร์วิสุทธิมรรค ศึกษาหลักธรรมที่ทรงตรัสไว้ในพระไตรปิฎกนั้น คือ เรื่องปฏิจจสมุปบาท เป็นกระบวนการเกิดทุกข์และดับทุกข์...การศึกษาคัมภีร์วิสุทธิมรรคก็กล่าวถึงธรรมทั้งหลาย ที่เป็นภูมิแห่งปัญญานี้ ที่กล่าวไว้ว่า "ธรรมต่างโดยขันธ์ อายตนะ ธาตุ อินทรีย์ และปฏิจสมุบาทเป็นอาทิ เป็นภูมิแห่งปัญญา"
อย่างไรก็ตาม การศึกษาหลักปฏิจจสมุปบาทในฐานะอิทัปปัจจยตานั้น แสดงความจริงตามกระแสแห่งเหตุปัจจัย มีสภาวะเกิดขึ้น ดำรงอยู่ และดับไป มีความสำคัญเพื่อแสดงกระบวนสภาวธรรมหลักอิทัปปัจจยตา
พุทธทาสภิกขุได้ชี้ประเด็นและตีความ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม แสดงให้เห็นภาวะความเป็นทุกข์แล้ว มุ่งสู่การดับทุกข์ เน้นกระบวนธรรมสัมพันธ์คำสอนที่ปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก ซึ่งตรัสเกี่ยวกับกระบวนสภาวปัจจยธรรม ที่ปรากฏในรูปอริยสัจสี่ ซึ่งพุทธทาสภิกขุได้นำมากล่าวเพื่อความชัดเจนตามกระบวนแห่งปฏิจสมุปบาทธรรม ประเด็นการตีความลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยปฏิจจสมุปบาท ที่นำมากล่าวอธิบายให้ทราบถึงปัจจัยอิงอาศัยให้เกิดสัสสตทิฐิ เป็นเหตุเกิดกระแสอิทัปปัจจยตา ยึดมั่นถือมั่นตามธรรมดาที่เป็นไปเพื่อทุกข์
      ผลการศึกษาวิจัยพบว่า การตีความหลักปฏิจจสมุปบาทตามทัศนะของพุทธทาสภิกขุนั้น มีประเด็นความสัมพันธ์และการตีความทางเนื้อหาสาระเหมือนกับหลักปฏิจจสมุปบาทในพระไตรปิฎก และคัมภีร์วิสุทธิมรรค ซึ่งมีความคล้ายคลึงกันกับหลักปฏิจจสมุปบาทในพระไตรปิฎกและวิสุทธิมรรคในประเด็นที่ว่า ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นไปตามหลักปฏิจจสมุปบาท คือภาวะแห่งธรรมที่อาศัยกันเกิดขึ้นและดับไป ตามหลักที่ว่า “เมื่อสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เมื่อสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้ จึงดับ หรือ เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ...
ส่วนผลการศึกษาในประเด็นของการตีความของพุทธทาสภิกขุ ที่แปลกออกไปทางด้านการใช้สำนวนภาษาที่เป็นสื่อในการอธิบายเนื้อหาสาระ จุดเน้น วิธีการและรายละเอียดบางประการแตกต่างจากพระไตรปิฎกและคัมภีร์วิสุทธิมรรค จากการศึกษาวิจัยทำให้ทราบว่า การตีความที่เหมือนและแตกต่างกันนั้น ทำให้มองเห็นความหลากหลายของแนวคิดที่บุคคลต่าง ๆตีความหมาย อธิบายเหตุปัจจัย ไม่ว่า จะเป็นการใช้สำนวนภาษาหรือความเห็นของแต่ละบุคคลที่มีพื้นฐานทางการศึกษาและการปฏิบัติที่ต่างกัน จึงมีการตีความ อธิบายความไปในประเด็นต่าง ๆ ทั้งที่เป็นสัสสตทิฐิสัมมาทิฐิ และอุจเฉททิฐิตามพื้นฐานความคิดที่ตนเข้าใจลิขสิทธิ์เป็นของมหาวิทยา
Download :  255025.pdf
 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕