หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระครูสมุห์ใส วิมุตฺโต (ตาแสง)
 
เข้าชม : ๒๐๐๒๑ ครั้ง
นโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามหลักธรรมสังคหวัตถุ ๔ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี (การพัฒนาสังคม)
ชื่อผู้วิจัย : พระครูสมุห์ใส วิมุตฺโต (ตาแสง) ข้อมูลวันที่ : ๐๘/๐๓/๒๐๑๘
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระมหาอำนวย อํสุการี
  บัว พลรัมย์
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๑๐ มีนาคม ๒๕๕๘
 
บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

 

                      การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ ๑) เพื่อศึกษาการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามหลักธรรมสังคหวัตถุ ๔ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี  ๒) เพื่อศึกษาการดำเนินการนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามหลักธรรม   สังคหวัตถุ ๔ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี  และ ๓) เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ของการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามหลักธรรมสังคหวัตถุ ๔ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

             การศึกษาครั้งนี้ เป็นการวิจัยเป็นแบบผสม (Mixed Method Research) โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยกำหนดรูปแบบในการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ ผู้สูงอายุที่พักอาศัยในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี จำนวน ๓๗๕ คน จากจำนวนประชากรทั้งหมด ๑๔,๖๐๓ คน ซึ่งใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเป็นระบบ (Simple Random Sampling) การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้เครื่องมือเป็นแบบสอบถาม (Questionnaire) วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของประชากร คือ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean)  และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) และการทดลองเป็นรายคู่โดยวิธีการแอลเอสดี (Least Significant Difference ; LSD) และการสัมภาษณ์        เชิงลึก (In-depth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) จำนวน ๑๕ คน โดยการใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท (Content Analysis Techniques)

 

             ผลการวิจัยพบว่า

             ๑.  ระดับความคิดเห็นของผู้สูงอายุที่มีต่อนโยบายการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามหลักธรรมสังคหวัตถุ ๔ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี          ทั้ง ๔ ด้าน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยรวม ๔.๐๔  เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทั้ง ๔ ด้าน อยู่ในระดับมาก โดยด้านปิยวาจา มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด รองลงมา คือ ด้านทาน ด้านสมานัตตตา และด้านอัตถจริยา ตามลำดับ

             ๒.  ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ผู้สูงอายุที่มีระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามหลักธรรมสังคหวัตถุ ๔ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งตรงตามสมมติฐานที่ว่า ผู้สูงอายุที่มีระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามหลักธรรมสังคหวัตถุ ๔ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี แตกต่างกัน ส่วนผู้สูงอายุที่มีเพศ อายุ ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามหลักธรรมสังคหวัตถุ ๔ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี  ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ          ที่ระดับ ๐.๐๕ ซึ่งไม่ตรงตามสมมติฐานที่ว่าผู้สูงอายุที่มีเพศ อายุ ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามหลักธรรมสังคหวัตถุ ๔ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี  แตกต่างกัน  

             ๓. ข้อเสนอแนะแนวทางทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุตามหลักธรรมสังคห วัตถุ ๔ ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ที่พักอาศัยในในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี พบว่า ด้านทาน มีข้อเสนอแนะคือ เจ้าหน้าที่ทุกคนควรต้องดูแลเอาใจใส่ใจแนะนำ ให้ความรู้แก่ผู้สูงอายุอย่างทั่วถึง แนะนำให้ความรู้วิธีการต่างๆ เกี่ยวกับการดำรงชีวิตของผู้สูงอายุ และอำนวยความสะดวกด้วยการออกสำรวจพื้นที่ พูดคุย พบปะ  ด้านปิยวาจา มีข้อเสนอแนะ คือ แนะนำให้บริการด้วยวาจาสุภาพ อ่อนหวาน เรียบร้อย พูดจาชัดเจนแต่สุภาพในการให้บริการ และทักทายต้อนรับด้วยวาจาสุภาพและใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส  ด้านอัตถจริยา มีข้อเสนอแนะ คือ แนะนำอาชีพหรือรายได้เสริมให้ทำในเวลาว่าง รองลงมา คือ แนะนำ สาธิต วิธีการออกกำลังกายให้ถูกต้องตามวัย ด้านสมานัตตตา มีข้อเสนอแนะ คือ การจัดลำดับคิวการให้บริการอย่างเสมอภาคโดยไม่เลือกชั้นวรรณะ กรณีผู้สูงอายุที่มีอายุมาก ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ให้บริการก่อน วางตัวเหมาะสมในการให้บริการและเป็นกันเอง

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕