หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระสมศักดิ์ กิตฺติวุฑฺโฒ
 
เข้าชม : ๑๙๙๗๓ ครั้ง
ความสัมพันธ์ระหว่างอิทธิบาทธรรมกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ของบุคลากรเทศบาล ในอำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร(สาขารัฐประศาสนศาสตร์)
ชื่อผู้วิจัย : พระสมศักดิ์ กิตฺติวุฑฺโฒ ข้อมูลวันที่ : ๒๑/๐๒/๒๐๑๗
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  พระปลัดสมบัติ ฐิติญาโณ
  พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญฺโญ
  -
วันสำเร็จการศึกษา : ๒๕๕๙
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาการปฏิบัติตนตามหลักอิทธิบาทธรรมของบุคลากรเทศบาลในอำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร ๒) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลในอำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร และ ๓) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง
อิทธิบาทธรรมกับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลในอำเภอเมืองพิจิตร
จังหวัดพิจิตร

ดำเนินการวิจัยโดยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods Research)
โดยการวิจัยเชิงปริมาณ
(Quantitative Research) ใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ บุคลากรเทศบาลในอำเภอเมืองพิจิตร จำนวน ๒๓๐ คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล
คือ ค่าความถี่ (
Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ทดสอบสมมติฐาน โดยการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s Product Moment Correlation Coefficient)และการวิเคราะห์ทดสอบความสัมพันธ์แบบไคสแคว์ (Chi–Square test) และการวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) จำนวน ๙ รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณา

ผลการวิจัยพบว่า

๑) ระดับการปฏิบัติตนตามหลักอิทธิบาทธรรมของบุคลากรเทศบาลในอำเภอ
เมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
โดยภาพรวมพบว่า อยู่ในระดับปานกลาง ( =๓.๑๖) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านวิริยะ (ความเพียร) ( =๓.๒๒)
ด้าน
จิตตะ (ความเอาใจใส่) ( =๓.๒๐) ด้านฉันทะ (ความพอใจ) ( =๓.๑๓) และด้านวิมังสา
(ความรอบคอบ)
( =๓.๑๐)

๒) ปัจจัยส่วนบุคคลที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาล
ในอำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
พบว่าปัจจัยส่วนบุคคล  คือ ปัจจัยด้านเพศ อายุ ระดับการศึกษา ระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง ตำแหน่ง และรายได้ต่อเดือน ไม่มีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลในอำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย

ความสัมพันธ์ระหว่างอิทธิบาทธรรมกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลในอำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร พบว่า อิทธิบาทธรรมในแต่ด้านโดยภาพรวมมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลในอำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร โดยมีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับต่ำ (R = ๐.๐๔๑)

๓) ปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลในอำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร พบว่า ปัญหาและอุปสรรค คือ บุคลากรบางคนยังขาดความรักความชอบใจในงานบางอย่าง ควรเสริมสร้างปลูกจิตสำนึกให้ความรู้เกี่ยวกับงานในหน้าที่และงานที่ต้องปฏิบัติ ควรมีการประเมินงานตรงไปตรงมาอย่างโปร่งใส บุคลากรเทศบาลยังทำงานแบบ
เช้าชามเย็นชาม เอาเวลาไปทำงานอย่างอื่นไม่ทุ่มเทให้กับงาน และยังเอาตัวรอดในการทำงาน ผู้บริหารเรียกพนักงานไปใช้งานส่วนตัว จึงขาดความเพียรในการทำงาน บุคลากรยังมีการหลบหลีก ปัดความรับผิดชอบ ไม่เอาใจใส่ต่องานเท่าที่ควร ขาดการเอาใจใส่ในงานทั้งที่เป็นหน้าที่ของตนเอง ทำงานไม่ละเอียด ขาดสมาธิในการทำงาน ทำให้งานเกิดการผิดพลาดเสียหาย ต้องแก้ไขอยู่เสมอ
โดยมีข้อเสนอแนะ
ว่า ควรศึกษาหลักอิทธิบาทธรรมในพื้นที่เทศบาลเมืองพิจิตรเพิ่มเติมที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ควรศึกษาบทบาทของบุคลากรเทศบาลที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรเทศบาลในอำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร ควรศึกษาแนวทางการส่งเสริมการเข้าร่วมอบรมการปฏิบัติงานตามหลักอิทธิบาทธรรมของบุคลากรเทศบาลในอำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร

ดาวน์โหลด

 

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕