หน้าหลัก ค้นหา ติดต่อ สมุดโทรศัพท์ การเรียน/การสอน เหตุการณ์ แผนที่เว็บ Thai/Eng
MCU

หน้าหลัก » พระอธิการสนิท จิตฺตธมฺโม (กองแก้ว)
 
เข้าชม : ๑๙๙๖๔ ครั้ง
การใช้หลักธรรมมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต ๑
ชื่อผู้วิจัย : พระอธิการสนิท จิตฺตธมฺโม (กองแก้ว) ข้อมูลวันที่ : ๒๓/๐๙/๒๐๑๓
ปริญญา : พุทธศาสตรมหาบัณฑิต(การบริหารจัดการคณะสงฆ์)
คณะกรรมการควบคุมวิทยานิพนธ์ :
  ผศ.ดร.อินถา ศิริวรรณ พธ.บ., M.Ed.,Ph.D
  พระมหาสมบูรณ์ สุธมฺโม ป.ธ.๗ พธ.บ., พธ.ม.
  ผศ.ดร.สุทธิพงษ์ ศรีวิชัย ป.ธ.๓, พธ.บ., M.E.d., Ph.D.
วันสำเร็จการศึกษา :
 
บทคัดย่อ

 

บทคัดย่อ

                        การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต ๑ มีวัตถุประสงค์ในการวิจัยครั้งนี้   เพื่อศึกษาการใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต ๑ เปรียบเทียบการใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารที่มีประสบการณ์ใน  การดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต ๑ และ ข้อเสนอแนะแนวทางหลักธรรมาภิบาลในสถานศึกษาในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต ๑  ประชากรที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ครูผู้สอน และ ผู้บริหาร จำนวน ๔๑๔ คน การเก็บรวมรวมข้อมูล ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างตามตารางสำเร็จรูปของ R.V.Krejcie และ D.W. Morgan จำนวน ๒๐๑ คน โดยการสุ่มแบบชั้นภูมิ (Stratified Random Sampling) ที่ระดับ ความเชื่อมั่น ๙๕ % โดยแบ่งตามประสบการณ์ ในการดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน ๓ กลุ่ม คือ สถานศึกษาดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาตั้งแต่ ๑๐ ปีขึ้นไป ๗๒ คน สถานศึกษาที่มีผู้บริหารดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาตั้งแต่ ๗-๙ ปี ๑๐๖ คน สถานศึกษาที่มีผู้บริหารดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาตั้งแต่ ๖ ปีลงมา ๒๓ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบค่าที่ (t-test)  และ One-Way ANOVA โดยกำหนดนัยสำคัญ                 ทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕

 

                        ผลการวิจัยพบว่า

                        ๑. การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต ๑ ผู้บริหารสถานศึกษาได้ใช้ ด้านหลักนิติธรรม ด้านหลักคุณธรรม        ด้านหลักความโปร่งใส ด้านหลักการมีส่วนร่วม ด้านหลักความรับผิดชอบ  และ ด้านหลักความคุ้มค่า ในการบริหาร โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก

                        ๒. การเปรียบเทียบการใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในการดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต ๑ พบว่า            การใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในการดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา      โดยรวมและเป็นรายด้าน ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕

                        ๓. ปัญหาในการใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารที่มีประสบการณ์ใน                         การดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต ๑             ที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ผู้บริหารกำหนดหน้าที่รับผิดชอบงานต่างๆของบุคลากรไม่เหมาะสมกับความถนัดรองลงมาคือ บุคลากรขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการงบประมาณของสถานศึกษาและผู้บริหารไม่ได้ส่งเสริมให้บุคลากรปฏิบัติ ตาม กฎ ระเบียบข้อบังคับที่กำหนดขึ้น

                        ๔. แนวทางในการใช้หลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารที่มีประสบการณ์ใน                  การดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต ๑             ที่สำคัญคือ ผู้บริหารควรกำหนดแผนและขั้นตอนการรับผิดชอบงานต่างๆ โดยชี้แจงการปฏิบัติงานให้ชัดแจนและมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง ควรส่งเสริมให้บุคลากรทำตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับอย่างเคร่งครัดและต้องมีการลงโทษบุคลากรที่ประพฤติผิดกฎระเบียบ ข้อบังคับอย่างจริงจังและควรจัดกิจกรรมเพื่อยกย่อง เชิดชูบุคลากรที่ปฏิบัติงานดีเด่นเป็นประจำ

ดาวน์โหลด

 
 
สงวนลิขสิทธ์โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ 
พัฒนาและดูแลโดย : webmaster@mcu.ac.th 
ปรับปรุงครั้งล่าสุดวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕